ถอนตัวแล้ว นักเทนนิสเยาวชน วัย 16 ปี หลังโซเชียลเดือด มีชื่อติดทีมชาติ

ถอนตัวแล้ว นักเทนนิสเยาวชน วัย 16 ปี หลังโซเชียลเดือด มีชื่อติดทีมชาติ

“สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย” ออกประกาศแจ้ง นักเทนนิสเยาวชนวัย 16 ปี จากกรณีฝ่าไฟแดงชนคนตาย ส่งหนังสือขอถอนตัว ออกจากการเป็นนักกีฬาทีมชาติแล้ว

จากกรณีที่โลกโซเชียลกลับมาร้อนระอุอีกครั้ง สำหรับแฮชแท็ก #เด็ก16ผ่าไฟแดงชนคนตาย ในกรณีที่นักเทนนิสเยาวชน วัย 16 ปี ขับรถยนต์ฝ่าไฟแดง นายธนพล แก้วมูล หรือ เต้ อายุ 24 ปี พนักงานจ้างเหมาดูแลระบบเครือข่าย โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) บัณฑิตเกียรตินิยม วิศวกรรมโทรคมนาคม เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2565 ที่ผ่านมา บนถนนทางเข้ามหาวิทยาลัยดัง จังหวัดนครราชสีมา

ต่อมาเยาวชนวัย 16 ปี คนดังกล่าว ได้โพสต์ภาพลงอินสตาแกรมส่วนตัว เป็นภาพของประกาศนียบัตร ที่ระบุว่า สามารถผ่านการคัดเลือกเป็นนักกีฬาเทนนิสเยาวชนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ประจำปี 2566 งานนี้ทำให้ชาวเน็ตหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งในเพจของ สมาคมกีฬาเทนนิสฯ และในโลกออนไลน์ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องออกมาทบทวนเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง

สังคม

ล่าสุด ทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ – LTAT ได้ออกหนังสือชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ระบุว่าสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอเรียนให้ทราบว่า นักกีฬาเทนนิสเยาวชนที่อยู่ในกระแสข่าวขณะนี้ ได้ส่งหนังสือขอถอนตัวออกจากการเป็นนักกีฬาเทนนิสเยาวชนทีมชาติไทย ประจำปี 2566 แล้ว สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอขอบพระคุณในทุกข้อเสนอแนะไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย

พร้อมกับแนบหนังสือ เรื่อง ขอถอนตัวจากการเป็นนักเทนนิสเยาวชนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ประจำปี 2566 ที่ระบุว่า “ตามที่กระผมนายฯ ได้แข่งขันคัดเลือกเป็นนักเทนนิสเยาวชนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ประจำปี พ.ศ. 2566 แล้วนั้น กระผมมีความประสงค์ที่จะขอถอนตัวจากการเป็นนักเทนนิสเยาวชนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ประจำปี พ.ศ. 2566 และขอความกรุณาจากสมาคมฯ ได้พิจารณานักเทนนิสท่านอื่นที่เข้าร่วมแข่งขัน คัดเลือกเป็นนักเทนนิสเยาวชนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ประจำปี พ.ศ. 2566 ตามระเบียบการแข่งขัน ของสมาคมฯ ต่อไป”

แนะนำข่าวเพิ่มเติม : อดีตหนุ่มแบงก์หายตัวลึกลับ 28 ปี ญาติหวั่นโดนอุ้มฆ่า เบาะแสสุดท้ายถูกคนมีสีข่มขู่

อดีตหนุ่มแบงก์หายตัวลึกลับ 28 ปี ญาติหวั่นโดนอุ้มฆ่า เบาะแสสุดท้ายถูกคนมีสีข่มขู่

อดีตหนุ่มแบงก์หายตัวลึกลับ 28 ปี ญาติหวั่นโดนอุ้มฆ่า เบาะแสสุดท้ายถูกคนมีสีข่มขู่

สังคม

อดีตหนุ่มแบงก์หายตัวลึกลับนาน 28 ปี ญาติหวั่นโดนอุ้มฆ่า หลังคนมีสีข่มขู่เพราะเมียแอบมาติดพัน ถ้ายังมีชีวิตขอให้ติดต่อกลับมาด้วย

(18 พ.ย.65) นางวิไล ศรีละ อายุ 62 ปี ชาวตำบลโคกม้า อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาขอความช่วยเหลือผ่านสื่อ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามตัวบุคคลสูญหายช่วยเหลือ หลังจาก นายเกริกฤทธิ์ พวงทวีสุข หรือ ป๋อง ซึ่งเป็นน้องชาย อดีตเคยทำงานเป็นพนักงานธนาคารแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้หายตัวไปอย่างลึกลับพร้อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า โนวาเคเอส สีแดง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2538 โดยไม่มีใครทราบว่าหายไปไหน หรือไปกับใคร ทั้งๆ ที่ข้าวของเครื่องใช้เสื้อผ้ายังอยู่ครบ ที่สำคัญประวัติการย้ายที่อยู่ไม่ปรากฏ ธุรกรรมทางการเงินก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ

มีเพียงข้อมูลจากเพื่อนสนิทว่าก่อนที่นายเกริกฤทธิ์ หรือป๋อง จะหายตัวไป มีคนเอาลูกกระสุนปืนไปแขวนไว้หน้าห้องพัก ที่นายเกริกฤทธิ์ น้องชายเช่าพักอาศัยอยู่ในตัวเมืองบุรีรัมย์ ลักษณะเป็นการข่มขู่ เพราะมีภรรยาของคนมีสีคนหนึ่งมาติดพันนายป๋อง เพราะเป็นคนหน้าตาดีรูปหล่อ จนเพื่อนๆ ให้ฉายาว่า “ศรราม2” อีกทั้งยังมีคนมาเตือนให้นายป๋อง หนีออกจากพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ไปเพื่อความปลอดภัย เพราะไม่พอใจที่ภรรยามาติดพันนายป๋อง ซึ่งครอบครัวก็ไม่รู้ว่าที่น้องชายหายตัวไปจะเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวหรือไม่ แต่ก็พยายามออกตามหาน้องชาย มาตลอดเท่าที่ทำได้ แต่ตอนนั้นการสื่อสารและการเดินทางค่อนข้างลำบากกว่าทุกวันนี้ จึงเป็นไปได้ยากในการที่จะตามหา แต่ทุกคนก็ภาวนาขอให้น้องยังมีชีวิตและปลอดภัย

นางวิไล พี่สาวคนที่ 2 เล่าว่า ในครอบครัวมีพี่น้องทั้งหมด 9 คน เป็นผู้หญิง 8 คน ผู้ชายคนเดียว คือ นายเกริกฤทธิ์ หรือ ป๋อง เป็นน้องคนที่ 6 ของครอบครัว น้องเป็นคนหน้าตาหล่อ จึงมีผู้หญิงมาติดพันหลายคน แต่น้องก็ไม่เคยพามาให้ที่บ้านเห็นสักคน แต่มีเพื่อนมาเล่าให้ฟังว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งมาติดพันน้องชายตนเอง แต่ผู้หญิงคนนั้นเป็นภรรยาของคนมีสี ซึ่งเพื่อนน้องชายบอกว่า สามีของหญิงคนดังกล่าวเคยมาเตือนให้เลิกยุ่งกับภรรยาเขา จากนั้นก็มีคนเอากระสุนปืนไปแขวนหน้าห้องพักเป็นการข่มขู่ ก่อนที่น้องชาย จะหายตัวไปอย่างลึกลับ

จนถึงทุกวันนี้ผ่านมาเกือบ 28 ปีแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าน้องชายหายไปไหน เป็นตายร้ายดีอย่างไร ทุกคนในครอบครัวเป็นห่วงมากก็ภาวนาขอให้น้องปลอดภัย ซึ่งหากน้องยังมีชีวิตอยู่จริงก็อยากให้ติดต่อกลับมาหาครอบครัวบ้าง ทุกคนคิดถึงและเป็นห่วงมาก และหากไม่มีปาฏิหาริย์น้องชายได้เสียชีวิตไปแล้ว ก็อยากรู้ว่ากระดูกอยู่ที่ไหนจะได้เอากลับมาทำบุญ ซึ่งหากใครพบเห็นหรือรู้เบาะแสอะไร ก็ให้ติดต่อมาที่เบอร์ 08-7414-9969 และ 09-0363-6882 ตลอดเวลา